ถ้าย้อนกลับไปดูเทรนด์งานแต่งงานในเมื่อก่อน ส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยพิธีการหลายขั้นตอน ตั้งแต่การสู่ขอ หมั้นหมาย ไปจนถึงงานฉลองสุดยิ่งใหญ่ ทุกอย่างถูกจัดขึ้นตามขนบธรรมเนียมที่ส่งต่อกันมาแบบเป๊ะๆ
แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป คู่รักรุ่นใหม่ก็เปลี่ยนมุมมองต่อการแต่งงาน พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่พิธีที่ถูกต้องตามแบบแผน แต่ต้องการงานที่สะท้อนตัวตน และสร้างความทรงจำที่มีความหมายกับพวกเขาจริงๆ เทรนด์งานแต่งปี 2025 จึงไม่ได้เน้นความยิ่งใหญ่หรูหรา แต่กลับให้ความสำคัญกับบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย และเป็นตัวเองมากที่สุด แล้วเทรนด์ไหนกำลังมาแรง? มาดูกันเลย!
เทรนด์งานแต่งงาน 2025 – อัปเดตเทรนด์มาแรงคู่รักยุคใหม่ต้องรู้!
ปี 2025 เทรนด์งานแต่งไม่ได้เน้นแค่ความหรูหรา แต่โฟกัสไปที่ความเป็นตัวเอง บรรยากาศที่อบอุ่น และประสบการณ์ที่น่าจดจำของทั้งคู่บ่าวสาวและแขกที่มาร่วมงาน ลองมาดูกันว่าปีนี้ เทรนด์ไหนกำลังมาแรงบ้าง!
งานแต่งเล็กๆ แต่อบอุ่น (Micro Weddings & Intimate Celebrations)
จากเดิมที่งานแต่งต้องเชิญแขกหลักร้อยหรือหลักพัน คู่รักยุคใหม่หันมาเลือกจัด “Micro Wedding” หรือ “งานแต่งขนาดเล็ก” ที่เน้นเฉพาะครอบครัวและเพื่อนสนิทแทน เพื่อให้บรรยากาศเป็นกันเองและอบอุ่นกว่าเดิม แถมยังช่วยให้บ่าวสาวได้ใช้เวลากับแขกทุกคนอย่างเต็มที่
ข้อดีที่เห็นได้ชัดของ Micro Wedding คือ “ความเป็นกันเอง” ลองคิดดูสิว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถใช้เวลากับแขกทุกคนได้อย่างทั่วถึง ได้พูดคุย แบ่งปันความทรงจำดีๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะแค่เดินผ่านแขกเป็นร้อยเป็นพันโดยแทบไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันจริงๆ และด้วยขนาดงานที่เล็กลง สถานที่จัดงานก็ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงแรมใหญ่หรือห้องบอลรูมหรูหราเสมอไป คู่รักสามารถเลือกสถานที่ที่ มีความหมายและบรรยากาศที่เข้ากับสไตล์ของตัวเอง ได้มากขึ้น เช่น บ้านของครอบครัว สวนสวยบรรยากาศดีดี หรือเป็นร้านอาหารที่มีสไตล์
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Micro Wedding ได้รับความนิยมคือ การใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่า แทนที่จะต้องจ่ายเงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น คู่รักสามารถ เลือกลงทุนกับรายละเอียดที่มีความหมาย หรือตอบโจทย์ความต้องการของคู่รักได้อย่างแท้จริง
งานแต่งแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ (Minimalist Weddings)
คำว่า “Minimalist” อาจจะดูเหมือนง่าย แต่การสร้างงานแต่งงานที่มีความหมายและมีสไตล์ด้วยการเลือกสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น ก็ไม่ได้ง่ายซะทีเดียว แทนที่จะเน้นสิ่งที่ไม่จำเป็น คู่รักยุคใหม่เลือกให้ความสำคัญกับ ดีเทลที่มีความหมาย เช่น การเลือกสถานที่ที่มีความหมายและตกแต่งแบบธรรมชาติ โดยเน้นการใช้โทนสีที่อบอุ่นและสบายตา เช่น
โทนสีขาว, ครีม, หรือเบจ ที่สะท้อนความเรียบหรูและเป็นธรรมชาติ หรือโทนสีเขียว, สีน้ำตาลอ่อน ที่เข้ากับธรรมชาติและช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับงาน
การจัดงานแต่งงานในสไตล์ Minimalist ทำให้สามารถ ควบคุมงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องซื้อหรือเช่าอุปกรณ์ตกแต่งจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้คู่บ่าวสาวสามารถเลือกลงทุนในสิ่งที่มีความหมายจริงๆ มากกว่า เพื่อลงทุนในความทรงจำที่มีคุณค่า
งานแต่งกลางแจ้งสุดชิล (Outdoor & Destination Weddings)
การจัดงานแต่งในห้องบอลรูมหรูหราอาจไม่ใช่คำตอบของคู่รักยุคใหม่อีกต่อไป เทรนด์งานแต่งกลางแจ้งกำลังมาแรง เพราะให้บรรยากาศที่ อบอุ่น ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็น สวนสวยริมทะเล สนามหญ้ากลางขุนเขา หรือแม้แต่ไร่องุ่นสุดโรแมนติก ให้ธรรมชาติช่วยเป็นฉากหลังที่เติมเต็มความอบอุ่นและความทรงจำให้กับวันพิเศษของคู่บ่าวสาว
นอกจากนี้การพาแขกไปจัดงานในสถานที่ที่มีความหมาย เช่น เมืองในฝันหรือจุดหมายปลายทางที่โรแมนติก ก็กำลังเป็นที่นิยม เพราะนอกจากจะเป็นวันแต่งงานแล้ว ยังเป็นโอกาสให้คู่รักและแขกได้ ออกเดินทางและใช้เวลาดี ๆ ร่วมกัน เปลี่ยนวันสำคัญให้กลายเป็นทริปสุดพิเศษ
งานแต่งแนว Eco-friendly & Sustainability
เทรนด์ Eco-friendly & Sustainable Wedding กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคนี้ เพราะคู่รักไม่ได้ต้องการแค่ความสวยงามของงาน แต่ยังต้องการให้วันสำคัญของพวกเขาสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกใบนี้ด้วย ตั้งแต่สถานที่ ชุดแต่งงาน ดอกไม้ ของตกแต่ง ไปจนถึงเมนูอาหาร สามารถเลือกให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้โดยไม่ลดทอนความพิเศษของวันสำคัญ
ในยุคที่ความยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ เจ้าสาวหลายคนเริ่มมองหาทางเลือกที่สวยงามและเป็นมิตรกับโลกไปพร้อมกัน การเช่าชุดแต่งงาน หรือ การเลือกชุดมือสอง จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยลดการใช้ทรัพยากร และลดขยะแฟชั่นที่เกิดจากชุดที่ใส่เพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ หลายคนยังเลือกชุดแต่งงานที่ผลิตจากวัสดุยั่งยืน เช่น ผ้าฝ้ายออร์แกนิก ผ้าไหมจากแหล่งผลิตที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ชุดที่ออกแบบให้สามารถนำกลับมาใส่ซ้ำในโอกาสอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเดรสสีขาวดีไซน์มินิมอล หรือชุดสูทของเจ้าบ่าวที่สามารถนำไปใส่ต่อได้ในอนาคต
งานแต่งงานในยุคดิจิทัล เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนวันสำคัญให้ล้ำขึ้นอีกขั้น
งานแต่งงานในยุคดิจิทัล ไม่ใช่แค่การโพสต์รูปลงโซเชียลมีเดียอีกต่อไป แต่เป็นการใช้เทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์ที่ล้ำสมัย สนุก และเชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกัน ทำให้งานแต่งกลายเป็นมากกว่างานเฉลิมฉลอง แต่เป็นโมเมนต์ที่ทุกคนได้มีส่วนร่วมในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
อย่างการ์ดแต่งงานยุคนี้ก็นิยมส่งเป็น E-Invitation เพราะสะดวก ประหยัด และยังลดการใช้ทรัพยากร สามารถเล่าเรื่องราวของคู่บ่าวสาว แชร์วิดีโอพรีเวดดิ้ง รวมถึงใส่แผนที่และรายละเอียดงานได้แบบครบถ้วน ที่พิเศษไปกว่านั้น บางคู่ยังเลือกใช้ QR Code Invitation ให้แขกสแกนเพื่อรับข้อมูลแบบอินเทอร์แอคทีฟ หรือแม้แต่สร้าง วิดีโอการ์ดเชิญ ที่เล่าเรื่องราวความรักแบบอบอุ่น ทำให้ทุกคนตื่นเต้นกับงานตั้งแต่ก่อนวันจริง
และที่ฮอตฮิตที่สุดในงานแต่งงานสมัยใหม่ กลายเป็นไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้ก็คือ Photo Booth มุมถ่ายรูปที่ให้แขกเลือกพร็อพแปลกๆ และสร้างคอนเทนต์สนุกๆ ถ่ายเสร็จ ก็สามารถสแกนผ่าน QR Code หรือส่งไฟล์ตรงไปยังมือถือทันที แขกสามารถดาวน์โหลด แชร์ลงโซเชียล หรืออัปโหลดลง IG Story ได้ภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง
จากงานแต่งแบบดั้งเดิมที่เน้นพิธีการ สู่ยุคที่การแต่งงานกลายเป็นการสะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ของคู่รักมากขึ้น เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เข้ามาเพิ่มความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ
แม้ว่างานแต่งในปัจจุบันจะเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เปิดโอกาสให้คู่รักได้ออกแบบวันสำคัญของตัวเองให้มีความหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะเลือกจัดแบบเรียบง่าย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือเพิ่มลูกเล่นอินเทอร์แอคทีฟเพื่อให้แขกมีส่วนร่วม ทุกทางเลือกล้วนสะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า งานแต่งควรเป็นวันแห่งความสุขที่ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวและแขกจะจดจำไปตลอด
หวังว่าคู่รักที่กำลังวางแผนแต่งงาน จะสามารถนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้ว งานแต่งงานที่ดีที่สุด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของงานหรือความหรูหรา แต่คือวันที่เต็มไปด้วยความรัก ความหมาย และเรื่องราวที่เป็นตัวคุณเอง 
เช็คฤกษ์แต่งงานปี 2025
สาขาที่ 1 : Siam Square One ชั้น 3 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 2 : Terminal 21 ชั้น 2 ติดบันไดเลื่อนฝั่ง H&M
สาขาที่ 3 : พระราม 3 หมู่บ้านอรุณพัฒน์ เส้นสาธุประดิษฐ์ตัดใหม่
สาขาที่ 4 : The Promenade ชั้น 1 บริเวณลานน้ำพุ
สาขาที่ 5 : Seacon Square ชั้น 2 ข้าง Starbucks
สาขาที่ 6 : โครงการ One Nimman เชียงใหม่
สาขาที่ 7 : ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น G โซนเซ็นทรัล บริเวณลานน้ำพุ ใกล้กับร้านสตาร์บัค
สาขาที่ 8 : เดอะมอลล์โคราช ชั้น 1 ตึกใหม่ ตรงข้าม CPS CHAPS
สาขาที่ 9 : สีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 3 ติดบันไดเลื่อน ข้างคลินิก Smile Seasons
สาขาที่ 10 : เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 1 ติดกับร้าน Charles&Keith ตรงข้ามร้าน Pandora
สาขาที่ 11 : เดอะเซอร์เคิลราชพฤกษ์ โซน South Trail Walk Way ตรงข้าม MK
สาขาที่ 12 : เดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 1 บริเวณบันไดเลื่อนกลาง ตรงข้ามร้าน FOOT LOCKER
สาขาที่ 13 : รัชดา-สุทธิสาร ติด MRT สุทธิสาร ทางออกที่ 4
ข้อมูลเพิ่มเติม
Tel: 021077777
LINE: @suitcube
Facebook: suitcube
Instagram: suitcube
Website: www.suitcube.com