Pocket Square คือผ้าผืนเล็กๆ ที่ถูกพับแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อสูท ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเจ้าผ้าชิ้นนี้คือสิ่งเดียวกับผ้าเช็ดหน้า หรือบางคนก็อาจสงสัยว่า Pocket Square ที่ติดกับกระเป๋าคืออะไร และมีไว้เพื่ออะไร วันนี้เราเลยจะมาไขข้อสงสัย หยิบเรื่องราของผ้า Pocket Square และวิธีการพับมาฝากกัน

Pocket Square คือผ้าผืนบาง ขนาดเล็ก ที่สามารถพับเป็นรูปแบบต่างๆ ได้ตามใจชอบ ก่อนหย่อนใส่ลงกระเป๋าเสื้อสูท แล้วปล่อยให้ชาย Pocket Square โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋าเสื้อเล็กน้อย กลายเป็นแอกเซสซอรีช่วยเพิ่มความเท่เนี้ยบให้การใส่สูทของคุณ ซึ่งนอกจากจะดูดีแล้วยังสามารถบ่งบอกเอกลักษณ์ หรือเซ้นส์ทางแฟชั่นเฉพาะตัวที่ไม่ใช่ใครจะมาเลียนแบบกันได้ง่ายๆ โดยผ้าที่ใช้สำหรับ Pocket Square ส่วนใหญ่เป็นผ้าไหม ที่มีความเงาแวววาว และสามารถคงตัวได้ดี ถ้าเพิ่มลวดลายเข้าไปด้วย ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับชุดสูทที่เลือกใส่มากขึ้น

นอกจากนั้น Pocket Square ยังสามารถแมชต์คู่กับแอกเซสซอรีชิ้นอื่นได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเนคไท หูกระต่าย หรือแม้แต่ Lapel pin ถ้าช่วงนี้หนุ่มคนไหนกำลังจะมีโอกาสได้ออกงานสำคัญก็ไม่ควรพลาดที่จะเลือกหยิบ Pocket Square มาใส่เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้ชุดสูทของคุณกันด้วยนะ และที่สำคัญเสน่ห์ของ Pocket Square มีมากกว่านั้น ถึงแม้จะเป็นดีเทลเล็กๆ ที่หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกต อย่างทุกครั้งที่คุณเลือกหยิบ Pocket Square มาพับในรูปแบบต่างๆ ทุกรูปแบบก็สามารถบอกเล่าถึงความเป็นตัวคุณผ่านแอกเซสซอรีชิ้นจิ๋วนี้ได้  ซึ่ง SUITCUBE จะเลือก 4 สไตล์การพับยอดฮิตพร้อมบอกความหมายให้หนุ่มๆ นำไปลองเลือกใช้อัปเกดรการแต่งตัวกันดูนะคะ

Square Fold : สี่เหลี่ยมแสนคลาสสิก การพับผ้า Pocket Square เป็นทรงสี่เหลี่ยมเรียบ ที่แม้แต่ตัวเอกในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง สายลับ 007 และ Kingsman ก็เลือกพับ Pocket Square แบบ Square Fold ซึ่งการพับในรูปแบบนี้สามารถบ่งบอกถึงรสนิยมของคุณได้ คุณไม่ชอบอะไรที่ดูเยอะเกินไป เน้นความเรียบง่ายแต่ต้องดูดี มีคลาส คุณมักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเสมอๆ ถ้าให้เปรียบเปรยก็คงจะเหมือนกับมาร์ตินีรสดีสักแก้ว เรียบหรูแบบไร้กาลเวลา และแน่นอนไม่ว่าคุณจะต้องออกงานที่ไหน สไตล์ของคุณจะโดดเด่นอยู่เสมอ

Puff Fold : พับทรงพอง ชิคได้ง่ายนิดเดียว รูปแบบการพับทรงพองที่มีลักษณะพองๆ ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ นั่นก็แสดงออกได้ว่าคุณอาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่นักที่จะจัดแจงกับการพับ Pocket Square  แต่ก็ยังไม่วายให้ความสนใจในการแต่งตัวอยู่ดี หรือเรียกง่ายๆว่า ” เวลาไม่พอ แต่ผมขอดูดีไว้ก่อน ” หนุ่มๆ ซึ่งถึงแม้ว่าการพับทรงพองจะดูรีบๆ ไปสักหน่อย ในอีกแง่มุมนึงความเป็นพุ่มเล็กๆ นั้นกลับเพิ่มความยูนีคเฉพาะตัว ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ขี้เล่น เป็นกันเอง และที่สำคัญก็ยังปรับลุคให้ดูดีได้เช่นกัน และสำหรับหนุ่มคนไหนที่พึ่งหัดพับ Pocket Square การพับแบบ ​Puff Fold น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะวิธีการนั้นง่ายแสนง่าย เพียงแค่จับกึ่งกลางผ้าขึ้นมาแล้วรูดลง จากนั้นพลิกเอาด้านปลายขึ้นก็ได้ Pocket Square สวยๆ แล้ว

Cagney Fold : แคกนีย์ชวนหล่อเหมือนพระเอก Pocket Square สไตล์แคกนีย์จะพาคุณเปลี่ยนลุคเป็นพระเอกหนังสุดหล่อ เพราะการพับสไตล์นี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘James Cagney’ นักแสดงและนักเต้นชาวอเมริกันผู้โด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงยุคประมาณ 30 – 80 การพับ Pocket Square แบบแคกนีย์สไตล์จะมีลักษณะเป็นแฉกๆ ชี้ขึ้น รูปทรงคล้ายกับมงกุฎพระราชา ที่สามารถบ่งบอกความน่าเชื่อถือ เสริมบุคลิกให้มีออร่าแบบบอสใหญ่

Rose Fold : กุหลาบเพิ่มความโรแมนติก ดอกไม้นั้นก็เหมือนกับความโรแมนติกที่ถูกสร้างขึ้นมาจากธรรมชาติ และมักถูกใช้เป็นตัวแทนในการแสดงออกถึงความรัก เพราะฉะนั้นหนุ่มคนไหนที่เลือกพับ Pocket Square แบบ Rose Fold ก็คงเดาได้ไม่ยากว่าถ้าหากไม่กำลังอินเลิฟ ก็คงกำลังไปร่วมงานน่ายินดีสักงานอย่างแน่นอน การพับ Pocket Square สไตล์นี้นั้นช่วยปรับลุคให้คุณดูเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน นุ่มนวล ผสมกับความขี้เล่นนิดๆ ที่จะคอยเพิ่มเสน่ห์ให้คุณ วิธีการพับก็ง่ายแสนง่ายเพียงแค่ใช้นิ้วสองนิ้วจิ้มตรงกลางผ้าแล้วหมุนเป็นวงกลม ก็จะได้ดอกกุหลาบเป็น Pocket Square สวยๆ กันแล้ว

🔸รู้วิธีพับ Pocket Square รูปแบบต่างๆ ไปแล้ว ก็อย่าลืมหยิบไปแมทช์กับชุดสูทในสไตล์ของหนุ่มๆ กันล่ะ จะได้หล่อ เนี้ยบ มีเสน่ห์จนสาวเหลียวกันไปเลย

รองเท้าหนังผู้ชาย ไอเท็มเสริมความหล่อเฟี้ยวให้ครบเครื่อง เพราะถ้าจะแต่งหล่อแค่เสื้อผ้า หน้า ผมคงไม่พอ ต้องมีรองเท้าหนังผู้ชายสวมใส่เข้าเซ็ตให้เพอร์เฟกต์ ! SUITCUBE จึงรวบรวมสไตล์รองเท้าหนังผู้ชายที่ควรรู้มาฝาก แบบไหนเหมาะกับงานไหน หรือสูทสไตล์นี้ต้องคู่กับรองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ไหน ไปดูพร้อมกันเลย

“GOOD SHOES TAKE YOU GOOD PLACE”

Oxford Shoes
ถ้าถามว่ารองเท้าหนังผู้ชายคู่แรกที่ควรซื้อคือรองเท้าแบบไหน แน่นอนว่าต้องเป็น Oxford Shoes ซึ่งเป็นรองเท้าที่มีความเป็นทางการ หนุ่มๆ มักจะนิยมใส่ไปทำงาน แต่รู้หรือเปล่าว่า ก่อนที่รองเท้าสไตล์นี้จะชื่อว่า Oxford เคยชื่อว่า Balmorals มาก่อน ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตามปราสาท Balmoral Castle แต่สาเหตุที่เปลี่ยนมาใช้ Oxford เพาะยุคหนึ่งหนุ่มๆ ในมหาวิทยาลัย Oxford หันมาฮิตใส่รองเท้าหนังผู้ชายสไตล์นี้ จุดเด่นของรองเท้าหนังผู้ชายทรง Oxford คือการเย็บชิ้นหนังส่วนร้อยเชือกไว้ใต้ชิ้นหนังส่วนรองเท้า (Vamp) ทั้งยังตัดเย็บให้บริเวณที่ร้อยเชือกชิดเข้าหากันเพื่อไม่ให้เกิดร่องตรงกลางระหว่างเชือก หรือที่เรียกว่า Closed Lacing นอกจากนี้ยังมีหัวรองเท้าให้เลือกหลากหลาย ทั้ง ‘toe cap’ ซึ่งมีรอยเย็บคาดตรงหัวรองเท้า หรือ ‘quarter-brogue’ เล่นลายฉลุเรียงเป็นเส้นติดกับรอยเย็บตรงหัวรองเท้า เป็นต้น

Brogue Shoes
รองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Brogue คือรองเท้าคลาสสิกที่ผู้ชายทุกคนต้องมีไว้ครอบครอง ด้วยดีไซน์สวยไร้กาลเวลา จะใส่ทำงาน เข้าสังคม หรือนัดสำคัญก็ดูดี และเหมาะอย่างมากสำหรับใส่คู่กับสูทเพื่อออกงานทางการ จุดเด่นของรองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Brogue คือลวดลายฉลุบนรองเท้า ที่ต้องมีเพราะเมื่อก่อน รองเท้า Brogues มีไว้สำหรับใส่เดินในชนบท ลุยน้ำ ลงโคลน จึงต้องมีรูไว้ระบายน้ำและความชื้น นอกจากนี้รองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Brogues  ยังมีหลากหลายรูปทรงให้เลือก แต่ที่โดดเด่นคือ ‘wingtip’ ซึ่งหัวรองเท้าจะมีลักษณะคล้ายตัว W หรือปีกนก โดยรูปแบบของ wingtip นั้นมีมากมาย จึงมักนำไปตกแต่งรองเท้าหนังผู้ชายสไตล์อื่นๆ ด้วย

Derby Shoes
เมื่อไรก็ตามที่คุณผู้ชายต้องใส่สูทสีเข้ม เราแนะนำให้ใส่รองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Derby เพราะความเรียบโก้ของรองเท้าทรงนี้จะช่วยเสริมความหล่อเนี้ยบ ถึงแม้แต่ก่อนจะเป็นรองเท้าคู่ใจหนุ่มชอบเดินป่า และล่าสัตว์ แต่ปัจจุบันกลับเป็นคู่โปรดของหนุ่มในเมืองหลายต่อหลายคน โดยรองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Derby จะเย็บชิ้นหนังสำหรับร้อยเชือกไว้ด้านบนติดกับหนังส่วนรองเท้า (Vamp) และหัวรองเท้าส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นชิ้นเดียว (full closure)

Double Monkstrap
เพิ่มความแฟชั่นเข้ามาอีกนิด กับรองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Double Monkstrap รองเท้าหนังไร้เชือกแต่เพิ่มความเท่ด้วยสายรัดสองเส้น ซึ่งรองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Monkstrap แมทช์กับลุคแคชชวลได้อย่างลงตัว ยิ่งใส่คู่กับกางเกงยีนส์ คุณจะกลายเป็นหนุ่มสมาร์ทที่ไม่ตกเทรนด์เลยทีเดียว

Penny Loafer
ปิดท้ายด้วยรองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Penny Loafer ที่ต้องยอมรับว่าฮอตฮิตอยู่ไม่น้อยในแวดวงหนุ่มยุคใหม่ ซึ่งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ‘John F. Kennedy’ ชอบหยิบรองเท้าสไตล์นี้มาแมทช์เข้ากับสูท จนปี 1966 แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Gucci ดีไซน์รองเท้าหนังผู้ชายสไตล์ Penny Loafer ให้มีความหรูหราขึ้นกว่าเดิม ด้วยการนำโซ่เงินและทองมายึดติดไว้ด้านหน้ารองเท้า กลายเป็นรองเท้าสุดป็อปปูลาร์ในหมู่นักธุรกิจย่าน Wall Street ในนิวยอร์ก เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าประจำตัวหนุ่มอเมริกันบูติกเลยก็ว่าได้ ยิ่งนำมาใส่คู่เบลเซอร์ เสื้อโปโล หรือกางเกงยีนส์ยิ่งหล่อจนต้องเหลียว

🌟 นี่ก็คือ 5 สไตล์รองเท้าหนังผู้ชายที่จะช่วยเพิ่มบุคลิกภาพที่ดีให้กับสุภาพบุรุษทุกคน แต่จะยิ่งหล่อไปกว่านั้น ถ้าได้ใส่รองเท้าหนังผู้ชายคู่ถูกใจกับสูทคุณภาพดีสักชุด

🌟 ซึ่ง SUITCUBE เองก็มีบริการครบทั้งสูทสำเร็จรูป บริการสั่งตัดสูท และ รองเท้าหนังผู้ชาย ที่ผลิตจากหนังวัวแท้ในราคา 3,500 บาท เรียกได้ว่ามาที่ SUITCUBE ที่เดียว ก็หล่อแบบครบสูตรได้เลย

ดูสินค้าเพิ่มเติม “คลิก”

ผ้าวูล (Wool) นับเป็นเนื้อผ้าที่ถูกยกให้เป็นพระเอกของวงการชุดสูทเลยก็ว่าได้ เพราะความนุ่ม ความหรูหราของเนื้อผ้า และคุณสมบัติพรีเมียมอีกหลายต่อหลายข้อ ทำให้ผ้าวูลคือผ้าที่คุณผู้ชายไม่ควรพลาดสั่งตัดเป็นชุดสูทตัวเก่ง

โดยผ้าวูล คือผ้าที่ทำจากบรรดาขนสัตว์ชนิดต่างๆ มีทั้งผ้าวูล 100% ที่ทอจากขนสัตว์ล้วนๆ  ซึ่งผ้าวูลแท้แบบนี้ คือสุดยอดของผ้าวูลที่ใช้สำหรับตัดสูทเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีผ้าวูลเนื้อผสม ที่มักทอขนสัตว์ผสมกับใยสังเคราะห์นั่นเอง

ถ้ายกขนสัตว์อันดับหนึ่งที่นำมาทอแล้วได้ผ้าวูลคุณภาพพรีเมียม นุ่มละมุนนั้น ต้องไม่พลาดนึกถึง ‘ขนแกะ’ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นแกะพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก อย่างขนแกะเมอริโน (Merino) จากประเทศออสเตรเลีย หรือจะเป็น ‘ขนแพะ’ ที่ต้องใช้ขนแพะแคชเมียร์ (Cashmere) ที่พบได้มากในธิเบตก็ดีไม่แพ้กัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี ‘ขนวิคูนา’ (Vicuna) จากประเทศเปรูที่มักนำมาทอขึ้นเป็นผ้าวูลเนื้อนุ่ม

คำถามนี้ถ้าใครเป็นคอสูทตัวยง คงตอบได้ทันทีว่า ทำไมสูทที่ตัดจากผ้าวูลถึงดีที่สุด แต่หากใครยังไม่รู้ว่าคุณสมบัติของผ้าวูลคืออะไร เรามีข้อดีข้อเด่นของผ้าวูลมาเล่าสู่กันฟัง

♦ ยืดหยุ่นเก่ง ไม่ยับง่าย : ความโดดเด่นของผ้าวูลที่ต้องยกมาพูดถึงข้อแรกคือ ไม่ยับง่าย และมีความยืดหยุ่นค่อนข้างมาก ทำให้เวลาหนุ่มๆ ใส่สูทซึ่งตัดจากผ้าวูลแล้วต้องขยับตัวมากแค่ไหน เนื้อผ้าก็จะไม่ยับ กลับมาเรียบเหมือนใส่ครั้งแรก

♦ เนื้อนุ่ม ใส่สบาย : เพราะผ้าวูลทำมาจากเหล่าขนสัตว์ ทำให้เมื่อทอขึ้นผืนแล้ว ได้เนื้อผ้าที่มีความละเอียด เนียนนุ่ม และเงางาม

♦ หรูหรา สมาร์ทกว่าใคร : แน่นอนว่าความเงางามของสูทที่ตัดจากผ้าวูลนั้น จะช่วยเสริมบุคคลิกให้คุณผู้ชายมีความเรียบรู้ และดูดี

สำหรับสูทผ้าวูล ทั้งผ้าวูลแท้ และผ้าวูลผสม เราแนะนำให้ส่งซักแห้ง ซึ่งเป็นการซักแบบไม่ใช้น้ำ เพื่อถนอมสูท แต่หากจะซักเองก็ย่อมได้ ซึ่งควรซักมือกับน้ำยาซักแห้ง ห้ามขยี้เด็ดขาด ให้ขยำเบาๆ เท่านั้น ที่สำคัญห้ามใช้ผงซักฟอก เพราะจะทำให้สูทผ้าวูลหดตัวและเสื่อมเร็ว หรือหากเครื่องซักผ้าที่บ้านมีระบบซักผ้าวูล ก็ควรนำสูทใส่ถุงตาข่ายก่อนอย่างน้อย 2 ชั้น หลังจากนั้นสะบัดหมาด แล้วนำไปตากในที่ร่ม ให้ลมช่วยพัดจนแห้ง อย่าปล่อยให้โดนแดด เพราะเส้นใยจะหดตัวนั่นเอง

SUITCUBE เพื่อนรู้ใจเรื่องชุดสูทของคุณผู้ชาย ก็ไม่พลาดมีบริการผ้าวูลคุณภาพดี ตั้งแต่ผ้าวูล 50% ไปจนถึงผ้าวูล 100% สำหรับตัดสูทให้คุณโดยเฉพาะ ด้วยช่างมากฝีมือ เพื่อมอบประสบการณ์สุดพรีเมียมในการแต่งตัวด้วยชุดสูทของผู้ชาย และพร้อมส่งต่อชุดสูทเนื้อดี มีคุณภาพให้สุภาพบุรุษทุกคนได้มีไว้ครอบครอง

Marzoni แบรนด์ผ้าตัดสูทอันดับต้นๆ ของโลก ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นแบรนด์ผ้าคู่ใจคุณผู้ชาย จะมีผ้าสักกี่แบรนด์ที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ หนึ่งในนั้นคือ Marzoni แบรนด์ผ้าตัดสูทสัญชาติอิตาลีที่เราไม่พลาดหยิบยกเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง

Marzoni คือหนึ่งในแบรนด์ผ้าตัดสูทที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในวงการผ้า ด้วยผืนผ้าหลายคอลเลกชันจากขนแกะคุณภาพดี โดดเด่นด้วยสีและดีไซน์เฉพาะ ซึ่งผลิตในประเทศอิตาลีอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ด้วยช่างมากประสบการณ์ที่ Marzoni คัดมาจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้สามารถสร้างสรรค์สุดยอดเนื้อผ้าทอที่มั่นใจได้ว่า ถูกใจคุณผู้ชายอย่างแน่นอน

ด้วยความมุ่งมั่นและความหลงใหลในเนื้อผ้า รวมกับช่างมากฝีมือ Marzoni จึงผลิตผ้าผืนคุณภาพพรีเมียมมากมาย โดยในแต่ละปี Marzoni จะผลิตสินค้าใหม่ออกมากว่า 500 ดีไซน์ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับลูกค้าหลากสไตล์ ได้สัมผัสกับสิ่งที่คุณชอบและเป็นคุณมากที่สุด

ไม่เพียงเท่านั้น ยังใส่ใจลูกค้าด้วยการครีเอท Lookbook ทุกซีซั่น ผ่านเว็บไซต์ http://www.marzoni.it/ โชว์เนื้อผ้าและรายละเอียดต่างๆ เพื่อการันตีให้ลูกค้ารู้ว่า เนื้อผ้าคุณภาพที่คุณอยากได้เป็นอย่างไร ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ก็สามารถเห็นรายละเอียดของเนื้อผ้าได้อย่างชัดเจนนั่นเอง

SUITCUBE เพื่อนรู้ใจเรื่องชุดสูทของคุณผู้ชาย ก็ไม่พลาดนำผ้าตัดสูทจากแบรนด์ ‘Marzoni’ มาให้บริการ เพื่อที่จะมอบประสบการณ์สุดพรีเมียมในการแต่งตัวด้วยชุดสูทของผู้ชาย และพร้อมส่งต่อชุดสูทเนื้อดี มีคุณภาพให้สุภาพบุรุษทุกคนได้มีไว้ครอบครอง

ดูแลรองเท้าหนัง ขั้นตอนง่ายๆ ที่หนุ่มๆ ควรรู้ไว้ เพื่อใช้ดูแลและทำความสะอาดรองเท้าหนังคู่ใจก่อนสวมใส่ไปพบปะผู้คนข้างนอก อย่างที่เขาว่ากันว่า “รองเท้าที่ดี จะพาไปยังที่ดีดี” เพราะฉะนั้นรองเท้าที่ดีก็ควรจะสะอาด เงางามดูดีอยู่ตลอดด้วยเช่นกัน

รองเท้าหนังก็เหมือนเครื่องประดับชิ้นสำคัญพื้นฐานสำหรับผู้ชาย เวลามีใครสักคนเริ่มสนใจคุณ เขาจะเริ่มมองสำรวจคุณตั้งแต่ใบหน้าจรดลงมาถึงรองเท้าที่สวมใส่ ซึ่งรองเท้าหนังนั้นเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สาวๆ สามารถใช้ตัดสินใจอะไรบ้างอย่างในตัวคุณได้เลยทีเดียว อย่างสไตล์รองเท้าที่คุณใส่ก็สามารถบ่งบอกถึงรสนิยม ความชอบ หรือบอกได้ถึงสังคมที่คุณอยู่  รองเท้าหนังที่สะอาดเงางามอยู่เสมอก็เป็นตัวบ่งบอก Personality ของคุณได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

ขั้นตอนการทำความสะอาด

• ขั้นตอกแรกถอดเชือกรองเท้าให้เรียบร้อย และใส่ที่ดันรองเท้าเพื่อให้รองเท้าได้ยืดหยุ่น พร้อมที่จะทำความสะอาดต่อไป
• ใช้แปรงปัดฝุ่น และคราบสกปรกที่ติดอยู่บนรองเท้าของคุณเบื้องต้นก่อน โดยแปรงที่ผลิตจากขนม้าจะเป็นแปรงที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด หรือถ้าถ้าหากไม่มีแปรงสามารถใช้เป็นผ้าเช็ดแทนได้
• ใช้น้ำผสมสบู่ในการเช็ดทำความสะอาดคราบต่างๆ และใช้น้ำผสมน้าส้มสายชูผสมในปริมาณเท่าๆกัน เพื่อใช้ขจัดคราบที่ฝังแน่นบนตัวหนัง แล้วตากไว้ในที่โล่งแจ้งมีลมโกรก

ขั้นตอนการบำรุงหนัง

• ใช้แปรงขนม้า หรือผ้าในการทาครีมบำรุงหนังลงบนรองเท้า โดยควรเลือกสีครีมบำรุงหนังให้ตรงกับสีรองเท้าหนังของคุณ เพราะจะสามารถช่วยกลบเกลื่อนรอยย่น รอยขีดข่วนลงบนรองเท้าได้ดีมากขึ้น
• ทิ้งรองเท้าที่ทาครีมบำรุงไว้สักพักก่อนใช้แปรงขนม้าขัดให้ขึ้นเงา
• หลังขัดเสร็จจนขึ้นเงาควรตากรองเท้าของคุณไว้ในที่โล่งแจ้ง มีลมโกรก

ขั้นตอนการขัดเงาเพิ่มความแวววาว

• บีบครีมบำรุงหนังลงบนผ้า หรือแปรงขนม้า ทาให้ทั่วบริเวณหนังแล้วทิ้งไว้สัก 5 นาที เพื่อให้เนื้อครีมซึมลงเข้าไปในเนื้อหนัง
• ค่อยๆ ใช้ผ้าหรือแปรงขนม้าขัดถูไปตามบริเวณต่างๆ ให้ขึ้นเงา
• พักรองเท้าให้แห้ง แล้วขัดซ้ำจนกว่าจะได้ความเงาที่พอใจ

⭐ที่สำคัญการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังที่ดีมีคุณภาพ ยิ่งช่วยให้การดูแลรักษารองเท้าหนังของคุณมีประสิทธิภาพและรักษาหนังให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น อย่าง ผลิตภัณฑ์บำรุงเครื่องหนัง Solitaire ที่มีประสบการณ์ในวงการ และนำเสนอผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลรองเท้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยมมากว่า 80 ปี

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดถูกคิดค้นและผลิตโดยทีมผู้เชี่ยวชาญในประเทศเยอรมัน มากไปกว่านั้น ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะสานต่อ และต่อยอดความชำนาญที่สั่งสมมายาวนานของแบรนด์ เพื่อความพึงพอใจของลูกค้าทั่วโลก

Quick View

ที่ดันทรงรองเท้า (NICO SHOE TREE)

890.00฿

Add to cart

Quick View

เจลบำรุงหนังเรียบ

400.00฿

Add to cart

Quick View

สเปรย์กันน้ำ นาโน พลัส

570.00฿

Add to cart

Quick View

แปรงขนม้าแท้ 100%

350.00฿

Add to cart

Quick View

ครีมบำรุงหนังเรียบ (สีดำ)

250.00฿

Add to cart

Quick View

สเปรย์ดับกลิ่น

400.00฿

Add to cart

Quick View

ผ้าสำลีเกรดพรีเมี่ยม

150.00฿

Add to cart

Quick View

แปรงขนม้าแท้ 100%

190.00฿

Add to cart

Quick View

ครีมบำรุงหนังเรียบ (สีน้ำตาลเข้ม)

250.00฿

Add to cart

Quick View

ครีมบำรุงหนังเรียบ (สีน้ำตาลกลาง)

250.00฿

Add to cart

Quick View

ฟองน้ำขัดเงา

155.00฿

Add to cart

Quick View

แผ่นกันกัด กันหลวม

89.00฿

Select options

Store Hub พูดคุยกับคุณสน จันทร์ศุภฤกษ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ SUITCUBE แบรนด์ชุดสูทคุณภาพพรีเมี่ยม ราคาคุ้มค่า เพื่อสอบถามถึงเบื้องหลังความสำเร็จ พร้อมล้วงลับตัวช่วยสำคัญในการบริหารร้านที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น พร้อมเผยเคล็ดลับความสำเร็จดูแลร้านยังไงให้ขยายกว่า 10 สาขาใน 5 ปี

คลิกอ่านเพิ่มเติม

ผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 ทำให้ร้าน SUITCUBE ของเราที่มีมากถึง 10 สาขา ต้องหันมาเปิดเมนูลับสูตรเด็ด “หมูย่างสูตรคิวบ์” กอบกู้สถานการณ์เพื่อให้พนักงานกว่าร้อยชีวิตยังมีรายได้อยู่ในช่วงนี้

“หมูย่างสูตรคิวบ์” สูตรลับความอร่อยจากเมนูเด็ดประจำบ้านของพนักงาน นำมาปรับปรุงจนได้รสชาติที่อร่อยที่เราสุดแสนจะภูมิใจ หมูเนื้อแน่น ทานคู่กับข้าวเหนียวไรซ์เบอร์รี่ผสมควินัวนุ่มๆ หรือชอบเป็นข้าวเหนียวขาวเราก็มีพร้อมเสิร์ฟ และทีเด็ดที่ขาดไม่ได้เครื่องจิ้มสุดซี๊ด จิ้มแจ่ว หรือปลาร้าบอง

คลิกอ่านเพิ่มเติม

SUITCUBE แบรนด์ชุดสูทสัญชาติไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยประชาชนคนไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน จึงเกิดแนวคิดเปลี่ยนโรงงานผลิตเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ มาเป็นโรงงานผลิตหน้ากากผ้าป้องกัน Covid-19 ชั่วคราว เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้การสนับสนุนเรามาอย่างดีโดยตลอด

คลิกอ่านเพิ่มเติม

Tie Bar หรือที่หนีบเนคไท ไอเท็มช่วยเสริมลุคสมาร์ทเมื่อคุณผู้ชายใส่สูทผูกไท แม้จะเป็นแอคเซสซอรีชิ้นเล็ก แต่รู้หรือเปล่าว่า Tie Bar จะช่วยเพื่มความคูล และเติมเต็มมาดเท่ให้หนุ่มๆ ได้มากยิ่งขึ้น เกริ่นมาขนาดนี้ แน่นอนว่าเรามีเรื่องราวของ Tie Bar พร้อมการเลือก การใช้ และเทคนิคควรรู้ของ Tie Bar มาเล่าให้ฟัง เพื่อที่คุณจะได้ใช้ที่หนีบเนคไทเสริมหล่ออย่างถูกต้อง ไม่มีพลาด !

Tie Bar มีไว้เพื่ออะไร นอกจาก Tie Bar จะมีไว้เสริมลุคสมาร์ทให้กับการใส่สูทผูกไทแล้ว เจ้าที่หนีบเนคไทยังมีหน้าที่ตรึงเนคไทไว้กับเสื้อเชิ้ตอีกด้วย เพื่อไม่ให้เวลาขยับร่างกายแล้วเนคไทเคลื่อนตัวแกว่งไปมาให้เกิดความรำคาญ จุ่มลงแก้วกาแฟบ้าง เลอะอาหารบ้าง หรือก่อกวนคุณเวลาทำงาน จนต้องคอยจับเจ้าเนคไทไว้ตลอดเวลา มองดูแล้วก็เป็นบุคลิกภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ด้วย สองสไตล์ของ Tie Bar พูดถึงรูปแบบของ Tie Bar เราขอแนะนำให้รู้จักที่หนีบเนคไท 2 สไตล์ นั่นคือ Tie Bar แบบหนีบ และ Tie Bar แบบสไลด์เข้ากับเนคไท

• Tie Bar แบบหนีบจะเหมาะกับเนคไทที่มีเนื้อผ้าค่อนข้างหนา เพราะสะดวกและสามารถหนีบตรึงตัวเนคไทได้ดีกว่า
• Tie Bar แบบสไลด์ สำหรับหนุ่มสายแฟ ที่ชื่นชอบเนคไทเส้นเล็ก จะเหมาะกับ Tie Bar แบบสไลด์มากกว่า

ไซส์ที่ใช่ ตำแหน่งที่ถูก หนีบเนคไทยังไงก็ไม่พลาด ขนาดของ Tie Bar ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยขนาดที่ถูกของ Tie Bar คือความกว้างประมาณ 3 ส่วน 4 ของเนคไทเส้นสวย  และไม่ควรเลือก Tie Bar ที่มีขนาดใหญ่กว่าเนคไท เพราะมันจะดูเทอะทะ จนคุณหมดความสมาร์ท สำหรับตำแหน่งสุดเป๊ะที่เราควรหนีบ Tie Bar เข้ากับเนคไทคือระหว่างกระดุมเม็ดที่ 3 และ เม็ดที่ 4 ของเสื้อเชิ้ต ซึ่งควรหนีบ Tie Bar เข้ากับเสื้ออย่างไม่หลวมเกินหรือแน่นไป เจ้าที่หนีบเนคไทจะได้ทำหน้าที่ตรึงเนคไทได้อย่างเพอร์เฟกต์  

ต้องที่หนีบเนคไทสีเงินเท่านั้น  ที่สุดของ Tie Bar คงต้องยกให้ที่หนีบเนคไทสีเงิน เพราะเป็น Tie Bar สีคลาสสิกที่แมทช์ได้กับเสื้อเชิ้ต และสูทได้หลากหลายสไตล์ เสริมให้คุณดูเท่ ชิค หรือถ้าชอบสีทองก็ยังพอได้ แต่ลองดูให้แมทช์กับเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามสำหรับสี Tie Bar นั่นคือไม่ควรเลือก Tie Bar ที่มีสีสันสดใส หรือมีดีเทลเยอะเกินไป เพราะมันจะทำให้คุณกลายเป็นหนุ่มทึ่มที่ไม่รู้จักแต่งตัวให้พอดี  

⭐รู้ทริคการใช้ Tie Bar กันไปแล้ว หนุ่มๆ ก็อย่าลืมนำไปทำตาม หรือสาวๆ คนไหนจะจดไว้เตรียมที่หนีบเนคไทให้คุณผู้ชายก็ไม่หวงกัน    

Quick View

Tie Bar ปลาวาฬ LP-104

590.00฿

Select options

Quick View

Tie Bar ปลาวาฬ LP-103

590.00฿

Select options

Quick View

Tie Bar เนคไท LP-69

590.00฿

Select options

Quick View

Tie Bar เนคไท LP-56

590.00฿

Select options

 Monti คือแบรนด์ผ้าที่เปิดมาตั้งแต่สมัยสงครามโลก ทุกคนอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ สมัยสงครามโลก!! เพราะ Monti แบรนด์ผ้าสัญชาติอิตาลีนี้อยู่คู่วงการเสื้อผ้ามากกว่าร้อยปี และที่สำคัญยังคงถูกอกถูกใจลูกค้าทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้

สามพี่น้องแห่ง Monti
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.1911 Monti หรือชื่อเต็มว่า Tessitura Monti ก่อตั้งขึ้นโดยสามพี่น้องตระกูล Monti อย่าง Evaristo, Venerio และ Bruno และแม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 สามพี่น้องแห่ง Monti จะถูกเรียกตัวเข้ากองทัพ แต่ก็ยังคงเดินหน้าทำโรงงานจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งยังคงบริหารให้โรงงานทอผ้า Monti อยู่รอดได้ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก
หลังหมดสงครามโลก คือช่วงเวลาที่ Monti เติบโตอย่างรวดเร็วจนผ้าแบรนด์ Monti กลายเป็นผู้นำด้านผ้าสำหรับตัดเสื้อเชิ้ต ชื่อเสียงโด่งดังจนในปี ค.ศ.1967 Monti สามารถส่งออกผ้าไปได้ทั่วโลก ก่อนจะขยายสาขาไปยังอินเดียและสาธารณรัฐเช็ก

ผ้าของ Monti ไม่เป็นสองรองใคร
อย่างที่รู้กันว่าผ้าจากแบรนด์ Monti อยู่มานานกว่าศตวรรษ นั่นแปลว่าเรื่องคุณภาพต้องยืนหนึ่ง ดีเยี่ยมไม่มีเสื่อมคลายไปตามกาลเวลา เริ่มต้นจากการผลิตที่ Monti ใช้เทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัย ผสานเข้ากับนวัตกรรม และรักษามาตรฐานสากลได้อย่างไม่มีตก ไม่เพียงเท่านั้น Monti ยังปรับเปลี่ยนการดีไซน์ หรือลักษณะผ้าให้เข้ากับแฟชั่นอย่างพอดิบพอดี และใส่ความครีเอทีฟลงไปในแต่ละคอลเลกชั่นอีกด้วย

สำหรับผ้าที่โดดเด่นของ Monti ต้องยกให้ผ้าคอตตอนคุณภาพหรู ที่นับว่าผ้าของ Monti เป็นอันดับต้นๆ ที่คุณผู้ชายจะใช้สำหรับตัดเสื้อเชิ้ต ซึ่งสามพี่น้องแห่ง Monti เลือกใช้คอตตอนจากประเทศอียิปต์ 100% ในการทักทอขึ้นผืนผ้า ส่งตรงจากฟาร์มบริเวณ Nile Delta ของแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นจุดที่มีความชุ่มชื้นจากธรรมชาติสูง ทำให้คอตตอนมีความบางเบา นุ่มนวล และทนทาน

ด้วยกระบวนการที่ใส่ใจทุกขั้นตอน ทั้งยังเลือกใช้คอตตอนเนื้อดี ทำให้ผ้าของ Monti มีคุณภาพพรีเมียม สวมใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี ทั้งยังใส่ได้หลายโอกาสและยุคสมัย เพราะการดีไซน์ลวดลายเน้นสไตล์คลาสสิกนั่นเอง รู้เหตุผลแบบนี้แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ผ้า Monti ได้รับการไว้วางใจจากสุภาพบุรุษทุกคน

SUITCUBE เพื่อนรู้ใจเรื่องชุดสูทของคุณผู้ชาย ก็ไม่พลาดนำผ้าจากแบรนด์ ‘Monti’ มาให้บริการ เพื่อที่จะมอบประสบการณ์สุดพรีเมียมในการแต่งตัวด้วยชุดสูทของผู้ชาย และพร้อมส่งต่อชุดสูทเนื้อดี มีคุณภาพให้สุภาพบุรุษทุกคนได้มีไว้ครอบครอง

ถุงเท้าทำงาน คือสิ่งที่หากเลือก และสวมใส่อย่างเข้าใจ จะกลายเป็นตัวช่วยเซฟชีวิตได้มากทีเดียว เพราะทุกวันที่เราต้องก้าวเดิน เท้าคือส่วนที่รับบทหนักที่สุด และเมื่อสองเท้าเมื่อยล้า เหงื่อก็มักจะออกเป็นธรรมดา แต่เรื่องไม่ธรรมดาคือกลิ่นที่ตามมา รวมถึงอาการหนังเท้าเปื่อย ถลอก ไปจนถึงบวม นอกจากนี้บางคนยังเลือกถุงเท้าที่เหมาะสมไม่เป็น สีไม่ดีบ้าง ความยาวผิดบ้าง หรือคับเกินไป เลยกลายเป็นเสียบุคลิกไปซะอย่างนั้น SUITCUBE จึงมีวิธีเลือกถุงเท้าทำงานมาบอกต่อให้รู้ เตรียมนำไปใช้เลือกถุงเท้าทำงานกันได้เลย

“ ถุงเท้าทำงาน เลือกให้ถูก ดูให้เป็น แล้วจะเห็นความคุ้มค่า! ”

กฎเหล็กต้องจำก่อนเลือก !
เริ่มต้นกับเรื่องเท้าๆ ด้วยกฎเบสิกของการเลือกถุงเท้าทำงานที่เราอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจ ก่อนลงลึกไปถึงดีเทลยิบย่อย ถุงเท้าทำงานที่ดีควรจะ ……….

1. ควรระบายอากาศและความชื้นได้
2. ควรซับเหงื่อได้ดี
3. ขอบถุงเท้าทำงานห้ามย้วย หลวมปุ๊บเปลี่ยนปั๊บ
4. ควรเลือกให้เหมาะกับโอกาสที่สวมใส่
5. ต้องมีสีที่เหมาะสม ไม่โดดเด่นเกินไป และไม่เรียบจนดูน่าเบื่อ

เนื้อผ้าของถุงเท้าทำงาน
การให้ความสำคัญกับเนื้อผ้าไม่ได้มีไว้แค่สำหรับการเลือกเสื้อผ้าเท่านั้น เพราะถุงเท้าทำงานก็มีผ้าหลากชนิดให้เลือกเช่นกัน

1. คอตตอน – ผ้าที่มีคุณสมบัติของการดูดซับ จึงสามารถซับเหงื่อที่เท้าได้ดี ยืดหยุ่น และช่วยคงรูปร่างเท้า แต่อาจจะระบายความชื้นได้ไม่มากเท่าไหร่
2. วูล – เนื้อผ้าคลาสสิกของถุงเท้าทำงานที่ใส่สบาย ถึงอาจไม่ได้ซับเหงื่อได้ดีเท่าคอตตอน แต่เรื่องระบายความชื้นต้องยกให้ แถมยังเพิ่มความอบอุ่นได้อีกด้วย
3. สังเคราะห์ – ถุงเท้าทำงานที่ตัดเย็บจากผ้าสังเคราะห์ชนิดต่างๆ เช่น โพลีเอสเตอร์

ความยาวและไซส์ที่เหมาะสม
ถุงเท้าทำงานควรยาวแค่ไหน ? คำถามที่อาจไม่เคยใส่ใจ แต่เราไม่อยากให้พลาดรู้ไว้

1. ยาวถึงใต้เข่า – ถุงเท้าทำงานที่ยาวไปถึงบริเวณใต้เข่า เหมาะสำหรับการแต่งตัวทำงานที่เป็นทางการพอสมควร ซึ่งเราเชื่อว่าผู้ชายจำนวนไม่น้อยต้องมีความยาวของถุงเท้าทำงานระดับนี้ติดตู้
2. ยาวครึ่งแข้ง – ลดระดับความทางการลงมาเล็กน้อย หากคุณไม่ได้ซีเรียสมากนัก การเลือกถุงเท้าทำงานความยาวครึ่งหน้าแข้ง ก็ยังคงให้ความสุภาพได้
3. ยาวถึงตาตุ่ม – หนุ่มคนไหนที่สามารถแต่งตัวทำงานชิลๆ ได้ ถุงเท้าทำงานที่ความยาวถึงบริเวณข้อเท้าหรือตรงตาตุ่มก็น่าสนใจ เหมาะกับการหยิบมาใส่คู่กางเกงทรงเดฟ หรือขากระบอกเล็ก

ไม่เพียงเท่านั้น เราอยากให้ทุกคนลบภาพจำว่า ถุงเท้าทำงานจะมีขนาดเดียวคือ ‘ฟรีไซส์’ เพราะความจริงแล้ว ถุงเท้าทำงานมีขนาดมากมายให้เลือกเหมือนไซส์ของเท้า และแน่นอนว่าเราควรเลือกให้พอดี อย่าให้แน่นเกินจนบีบรัดนิ้วและตัวเท้า หรือหลวมเกินจนเสียบุคลิก

สีที่ใช่สำหรับถุงเท้าทำงาน

1. โทนสีสุภาพ – เรามักคุ้นเคยกับถุงเท้าทำงานโทนสีเข้ม อย่างดำ กรม ไปจนถึงน้ำตาลเข้ม หรือแดงเลือดหมู ซึ่งเป็นสีของถุงเท้าทำงานที่จัดว่าเรียบร้อย สุภาพ เหมาะสำหรับการแต่งตัวทางการ ซึ่งเราแนะนำให้เลือกสีที่แมทช์กับกางเกง เช่น กางเกงสีเทา ก็ต้องคู่กับถุงเท้าทำงานสีกรม จะได้ดูเนี้ยบอย่างมีสไตล์
2. โทนสีฉูดฉาด – สำหรับใครที่สามารถแต่งตัวไปทำงานด้วยลุคแคชชวล ก็เลือกถุงเท้าทำงานสีสันตามใจได้เลย หรือจะเลือกถุงเท้าทำงานที่มีลวดลายกราฟิกก็ไม่ว่ากัน ปล่อยตัวเองให้สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ จะเลือกถุงเท้าทำงานให้แมทช์กับเสื้อ สีรองเท้า หรือจะเล่นคู่สีคอนทราสท์กันก็ได้ แต่แอบกระซิบว่า ไม่ควรเลือกสีถุงเท้าทำงานสุดจี๊ดจนเด่นเกินชุดที่เลือกใส่

ทั้งหมดนี้คือเรื่องเท้าๆ ของ “ถุงเท้าทำงาน” ที่ SUITCUBE ไม่อยากให้มองข้าม เพราะแค่เข้าใจและเลือกเป็น ถุงเท้าทำงานก็จะกลายเป็นไอเทมเสริมบุคลิกที่ดีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

สูท Tailor Made คือสูทที่สั่งตัดมาเฉพาะคุณและเพื่อคุณเท่านั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่อยากได้ชุดสูทที่พอดีกับสัดส่วน มีรายละเอียดที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้มากที่สุด ไปจนถึงมีความยูนีคไม่ซ้ำกับใคร การสั่งตัดสูท Tailor Made คือสิ่งที่ตอบทุกความต้องการที่ว่ามาได้

หากอยากมีสูท Tailor Made ที่ตัดมาเพื่อเราเท่านั้นสักตัวต้องทำอย่างไร ?

SUITCUBE มีข้อควรรู้ของการสั่งตัดสูท Tailor Made ครั้งแรกมาแนะนำ

1 : รู้ว่าอยากได้สูท Tailor Made ตัวแรกเพื่ออะไร

สิ่งแรกที่ควรรู้ก่อนสั่งตัดสูท Tailor Made คือรู้ความต้องการของตัวเองว่าจะสั่งตัดสูท Tailor Made ไปเพื่ออะไร หรือใช้ในโอกาสไหน เช่น สั่งตัดสูท Tailor Made เพื่องานแต่งงาน, นัดสำคัญ, ต้อนรับงานใหม่, ออกเดท หรือโอกาสอื่นๆ ก็ควรแจ้งให้กับช่างได้รู้ก่อนตัดสินใจสั่งตัดสูท Tailor Made

2 : รู้ว่าผ้าแบบไหนที่ใจบอกว่าใช่

ผ้าสำหรับการสั่งตัดสูท Tailor Made มีให้เลือกหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสั่งตัดสูท Tailor Made ครั้งแรก การเลือกผ้าที่มีคุณภาพดี และเหมาะสมคือเรื่องสำคัญ โดยผ้าสำหรับสูท Tailor Made ชุดแรก เราแนะนำให้เลือกผ้าที่มีน้ำหนักเบา และสามารถสวมใส่ได้เกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะในช่วงที่อากาศร้อนก็ใส่สบาย หรือเมื่ออากาศเย็น สูท Tailor Made ชุดแรกนี้ก็สามารถช่วยให้อุ่นได้ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังจะสั่งตัดสูท Tailor Made ครั้งแรก ไม่อยากให้พลาด เนื้อผ้าวูล (Wool) หรือผ้าขนสัตว์ ที่ถูกยกให้เป็นพระเอกของผ้าตัดสูท เพราะสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามอากาศ ยืดหยุ่นได้ดี เมื่อสวมใส่แล้วต้องนั่งหรือขยับร่างกายก็ไม่ยับง่าย  สามารถกลับมาเรียบได้เหมือนใส่ครั้งแรก นอกจากนี้เนื้อผ้ายังนุ่มใส่สบาย และเงางาม เพิ่มความภูมิฐาน มีระดับให้คุณ

3 : รู้ศัพท์เบื้องต้นในวงการตัดสูท

Tailor Made แน่นอนว่าทุกครั้งของการสั่งตัดสูท Tailor Made จะมีช่างผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดสูท Tailor Made มาคอยให้คำแนะนำเสมอ แต่การรู้ศัพท์ที่ใช้เลือกส่วนต่างๆ ของสูทไว้บ้าง จะช่วยให้เข้าใจและเห็นภาพสูท Tailor Made ตัวแรกที่ต้องการมากยิ่งขึ้น โดยเรามีตัวอย่างคำมาให้ลองอ่านกันตามนี้

• สูท Single Breasted หมายถึง สูทกระดุมแถวเดียวที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งกระดุมจะเรียงตัวลงบริเวณกลางลำตัวเสื้อ มีตั้งแต่กระดุม1 เม็ด 2 เม็ด และ 3 เม็ด สูท Double Breasted หมายถึง สูทกระดุมสองแถว กระดุมจะเรียงตัวคู่กัน มีตั้งแต่กระดุม2 เม็ด 4 เม็ด และ 6 เม็ด

• สูทสองชิ้น / สูทสามชิ้น – จำนวนของชิ้นสูทในแต่ะเซ็ตคือคำที่ควรรู้ก่อนสั่งตัดสูท Tailor Made โดย ‘สูทสองชิ้น’ จะมีแค่เสื้อสูท และกางเกง ส่วน ‘สูทสามชิ้น’ จะเพิ่มเสื้อกั๊กด้านในเข้าไปด้วยนั่นเอง
• ปกสูท (Lapel) – อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของสูท Tailor Made มีทั้งปกธรรมดา (Standard Notch) ปกแหลม (Peaked) และปกกล้วยหอม (Shawl) ที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นตอนสั่งตัดสูท Tailor Made ก็อย่าลืมเลือกให้ดีนะ
• รอยผ่าหลังเสื้อสูท (Vent) – รอยผ่าหลังเสื้อสูท คือรอยบริเวณด้านหลังเสื้อสูทที่ช่วยให้รู้สึกสบายตัวขยับได้อย่างคล่องแคล่วเมื่อสวมใส่สูท Tailor Made ตัวแรก โดยควรเลือกให้เข้ากับรูปร่างของคุณ ซึ่งมีทั้ง ‘รอยผ่าเดียวตรงกลางเสื้อสูท’ (Single Vent) เหมาะกับผู้ชายหุ่นหมีดูอบอุ่น ‘รอยผ่าด้านซ้ายและขวา’ (Double Vent) เหมาะกับผู้ชายตัวเล็ก และ ‘ไม่มีรอยผ่าหลังเสื้อสูท’ (No Vent) ที่เหมาะกับหนุ่มๆ หุ่นผอมสูง

4 : รู้ความยาวกางเกงของสูท

Tailor Made ชุดแรก ถ้าเสื้อสูทคือพระเอก กางเกงก็ถือว่าเป็นเพื่อนพระเอกคนสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับสูท Tailor Made ชุดแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องระดับความยาวของกางเกงคู่สูทที่ทั่วไปแล้วมี 3 แบบ คือ

• ขากางเกงแบบ Full Break ที่จะยาวคลุมถึงบริเวณรองเท้าลงไปเกือบถึงส้นรองเท้า หรือบางทีก็ยาวกอมลงไปที่รองเท้าเลยทีเดียว เหมาะกับสูทสไตล์คลาสสิกและกางเกงทรงกระบอก
• ขากางเกงแบบ Quarter Break ที่จะยาวเลยขอบรองเท้าลงไปเล็กน้อย เหมาะกับสูทที่ใส่ได้หลายโอกาส และกางเกงทรงกระบอกเล็ก
• ขากางเกงแบบ No Break ที่จะยาวพอดีกับขอบรองเท้า หรือที่เรียกว่ากางเกงขาเต่อ เป็นความยาวขากางเกงที่วัยรุ่นและหนุ่มสายวินเทจชื่นชอบ

แต่สำหรับใครที่เพิ่งสั่งตัดสูท Tailor Made ครั้งแรก ความยาวขากางเกงแบบ Quarter Break คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะอย่างที่เราเล่าไปข้างต้นว่า สามารถใส่ได้หลายโอกาส ทั้งงานสุภาพ หรือปาร์ตี้สนุกๆ

5 : รู้แหล่งตัดสูท Tailor Made ที่ดี

ร้านตัดสูท Tailor Made ที่ดีคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณไม่ผิดหวังกับสูท Tailor Made ตัวแรก นั่นหมายถึงร้านที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง และใกล้ชิด มีชนิดผ้า และรูปแบบสูทให้เลือกหลากหลาย มีความรู้เรื่องสูทอย่างถูกต้อง วัดขนาดให้คุณอย่างพิถีพิถัน และใส่ใจทุกรายละเอียดเล็กน้อย รวมไปถึงมีบริการทั้งก่อนและหลังการขายที่น่าประทับใจ

SUITCUBE เพื่อนรู้ใจเรื่องชุดสูทของคุณผู้ชายก็พร้อมเป็นผู้สร้างความประทับใจให้กับการสั่งตัดสูท Tailor Made ครั้งแรกของคุณ เราพร้อมตัดสูท Tailor Made ด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญมากฝีมือที่รู้ลึกรู้จริงเรื่องสูท มีผ้าหลากหลายชนิดที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และพร้อมบริการ รวมถึงให้คำแนะนำอย่างเป็นมิตรทั้งก่อน ระหว่าง และหลังตัดสูทเรียบร้อยแล้ว เพื่อมอบประสบการณ์การสั่งตัดสูท Tailor Made ครั้งแรกให้กับคุณผู้ชาย และส่งต่อชุดสูทเนื้อดี มีคุณภาพให้สุภาพบุรุษทุกคนได้มีไว้ครอบครอง

ฤกษ์แต่งงานปี 2564 มาเสริฟแล้วจ้าาาา… เจ้าบ่าวเจ้าสาวท่านไหนที่วางแผนจะจัดงานแต่งงานในปีหน้านี้ เลือกวันรอกันได้เลย เพราะ SUITCUBE เราจัดมาให้เต็มครบทั้ง 12 เดือน!! คัดเฉพาะวันมงคลฤกษ์งามยามดีทั้งนั้น

เนื่องจากปีนี้มีสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ขึ้นมา ส่งผลให้ทุกคนต้องหันมาเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต เป็นรูปแบบ New Normal ใส่แมสออกจากบ้านและช่วยกันรักษาระยะห่าง ดังนั้นการจัดกิจกรรมใดใดที่จะมีการรวมตัวของคนเยอะๆ ก็ต่างต้องถูกยกเลิก หรือไม่ก็ถูกเลื่อนกันไปยาวๆ อย่างเช่น งานแต่งงานที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ตั้งใจวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วก็ไม่รอดเหมือนกัน มีหลายงานที่จำใจถูกเลื่อนไปก่อน เพื่อรอให้สถานการณ์กลับมาปกติ แต่ก็ไม่ต้องเศร้าใจไปปีนี้ไม่ได้แต่ง แต่ปีหน้าต้องได้!! เอาเป็นว่าช่วงนี้ก็เตรียมดูฤกษ์กันไว้ก่อน ดูวันที่สะดวกแล้วจะได้มีเวลาจัดการวางแผนเตรียมงานกันสบายๆ หายห่วง

ฤกษ์แต่งงานวันไหนที่ใช่ เลือกเลย!!

เริ่มต้นที่ฤกษ์แต่งงานเดือนมกราคม เดือนแรกของปี ซึ่งก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่คนส่วนใหญ่มักใช้ในการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ อย่างเช่น การเริ่มต้นชีวิตคู่อันหวานชื่น จากคู่รักพัฒนาไปเป็นคู่ชีวิตเปรียบเสมือนกับการเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ในการใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกัน เดือนนี้จัดไปจุกๆ 7 วันมงคล

ต่อมาฤกษ์แต่งงานเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักเดือนที่ตลบอบอวลไปด้วยดอกกุหลาบ หัวใจ และสีชมพู ขึ้นชื่อว่าเป็นเดือนแห่งความรักไม่ว่าคู่รักคู่ไหนๆ ก็อยากจัดงานแต่งงานในนี้ทั้งนั้น ด้วยความเชื่อที่ว่าชีวิตคู่จะได้ชื่นมื่นมีความสุข ตกหลุมรักกันแบบนี้ไปตลอด เหมือนโดนเจ้าคิวปิดน้อยยิงศรรักใส่ทุกวันคืน เดือนนี้จัดไป 7 วันหวานๆ เช่นกัน

ฤกษ์แต่งงานเดือนมีนาคม “มีนาคมแล้ว แล้วเธอหล่ะพร้อมแต่งงานหรือยัง??” เดือนมีนาคมนี้ก็กำลังดี เป็นช่วงซาๆ จากเทศกาลเมื่อต้นปีมาสักหน่อย ยังพอมีเวลาให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เตรียมงานกันแบบชิวๆ และเป็นเดือนที่ไม่มีวันหยุดยาว ก็น่าจะเป็นช่วงที่แขกจะสามารถมาร่วมงานได้สะดวกด้วย เดือนนี้มีฤกษ์ดีกันถึง 7 วัน

ฤกษ์แต่งงานเดือนเมษายน เดือนแห่งเทศกาลความสุขจริงๆ มีทั้งวันสงกรานต์ (วันปีใหม่ไทย) วันผู้สูงอายุ และวันครอบครัวรวมอยู่ในเดือนเดียว ถ้าได้จัดงานแต่งงานในเดือนนี้ก็คงจะแฮปปี้สุดๆ ไปเลย ถือเป็นของขวัญชิ้นโตให้กับญาติผู้ใหญ่ไปเลยนะ เดือนนี้มีฤกษ์ดีกันทุกอาทิตย์ จัดไป 8 วันเต็มเหนี่ยว

ฤกษ์แต่งงานเดือนพฤษภาคม เดือน “ห้า” ที่เมื่อออกเสียงแล้วฟังดูคล้ายกับเสียงหัวเราะแห่งความสุข ถ้าได้จัดงานแต่งงานในเดือนนี้ชีวิตคู่ก็น่าจะเต็มไปด้วยความสุขเหมือนกันนะ เดือนนี้มีวันให้คุณสละโสดกันถึง 7 วันเลยทีเดียว

ฤกษ์แต่งงานเดือนมิถุนายน มีความเชื่อกันว่าเจ้าสาวที่ได้แต่งงานในเดือน June จะได้เป็นเจ้าสาวที่มีความสุขตลอดไป ว้าวววว  June Bride เป็นความเชื่อทางฝั่งตะวันตกเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองการแต่งงานของคู่เทพจูปิเตอร์ กับเทพีจูโน่ เทพีแห่งการแต่งงาน และชีวิตคู่ ทำให้เกิดความเชื่อที่ว่าคู่ใดที่แต่งงานกันในเดือนนี้จะได้รับพรจากเทพีจูโน่นั้นเอง

ฤกษ์แต่งงานเดือนกรกฎาคม ก้าวเข้าสู่ครึ่งปีหลังที่มาพร้อมกับสายฝนโปรยปราย เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สะดวกจัดงานแต่งงานในเดือนนี้อาจจะต้องเช็คสภาพอากาศกันดีดีสักหน่อย หรือเลือกจัดงาน Indoor ไปเลยก็ตอบโจทย์อยู่เหมือนกันนะ เช็คฤกษ์แล้วโทรจองสถานที่กันไว้ก่อนได้เลย

ฤกษ์แต่งงานเดือนสิงหาคม ยังอยู่ในช่วงหน้าฝนกันแบบฉ่ำๆ คนไทยเรามีความเชื่อหนึ่งที่ว่าเวลามีการเริ่มต้นทำสิ่งใด แล้วเกิดฝนโปรยปรายลงมานั้นมักจะเป็นเรื่องที่ดี เปรียบเสมือนมีเทวดาลงมาอวยพรอย่างไงอย่างงั้น บางวัฒนธรรมก็เชื่อว่าการที่ฝนตกลงมาเป็นการชะล้างเรื่องไม่ดีออกไปด้วย และถ้าลองมองอีกมุมหนึ่งฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอจริงไหมคะ

ฤกษ์แต่งงานเดือนกันยายน เดือน ” 9 ” ที่พ้องเสียงกับคำว่า ” ก้าว หรือ ก้าวหน้า ” ในภาษาไทย ซึ่งก็หมายถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี คู่รักจึงนิยมจัดงานแต่งงานในเดือนนี้เหมือนกันเพราะความหมายที่ดี และเชื่อว่าจะมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่นั้นเอง

ฤกษ์แต่งงานเดือนตุลาคม เป็นอีกเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงจากหน้าฝนเริ่มต้นเข้าสู่หน้าหนาว แค่นึกถึงอากาศเย็นๆ มีลมพัดโชยก็โรแมนติกไม่ไหว อยากกอดใครสักคนจังเลย เดือนนี้จัดไปฤกษ์ดีดี 7 วันค่ะ

ฤกษ์แต่งงานเดือนพฤศจิกายน แต่งงานรับลมหนาวของจริง เดือนนี้สถานที่ต่างๆ คิวจัดงานแต่งงานเต็มเอี๊ยดแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นสถานที่ Out door บรรยากาศดีดีด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เจ้าบ่าวเจ้าสาวคงต้องวางแผนจองคิวสถานที่กันให้ดีเลยนะ

สุดท้ายฤกษ์แต่งงานเดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปี ที่หลายๆ คนมักนึกถึงการเฉลิมฉลอง และเป็นอีกเดือนที่นิยมจัดงานแต่งงานด้วยเช่นกัน เพราะเดือนนี้มีวันหยุดยาวหลายวัน หลังจากจบพิธีการแต่งงานก็มีเวลาไปฮันนีมูนสวีทหวานแบบคู่รักกันได้อีกยาวเลย

เลือกวันได้แล้ว ก็อย่าลืมจัดการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งเรื่องสถานที่แต่งงาน แขกในงาน การ์ดเชิญต่างๆ ส่วนเจ้าบ่าวท่านไหนที่กำลังมองหาสูทดีดีสักตัวใส่ในวันแต่งงาน เรียนเชิญที่ SUITCUBE ได้เลยทุกสาขา จะสูทสำเร็จรูปเราก็มีพร้อม หรืออยากสั่งตัดให้ได้สีและรูปแบบดั่งใจต้องจัดเลย เพราะงานสำคัญทั้งทีคุณเจ้าบ่าวต้องจัดเต็มค่ะ

สถานที่จัดงานแต่ง ในฝัน พร้อมเรทราคาค่าแต่งงาน ละเอียดยิบโลก!!

เอาล่ะค่ะทุกคน!! นี่ก็ใกล้จะปลายปีแล้วซึ่งเป็นช่วงที่คู่รักนิยมจัดงานแต่งงานกันมากที่สุด บ่าวสาวคู่ไหนกำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานอยู่เชิญทางนี้เลยจร้าาา เพราะวันนี้ SUITCUBE การหาสถานที่จัดงานแต่งงานถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ เพราะกว่าบ่าวสาวจะได้สถานที่จัดงานตามที่ต้องการแล้ว ก็คงต้องเสียเวลาติดต่อสถานที่เปรียบเทียบเช็คราคาและอื่นๆ อีกมากมายเพื่อให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด ของ สถานที่จัดงานแต่ง สถานที่จัดงานแต่ง ที่วันนี้ SUITCUBE นำมาแนะนำอาจช่วยให้หลายๆ [...]

01
Sep

สูทเจ้าบ่าว 6 ทริคแต่งตัวให้เด่นกว่าใครในงาน

สูทเจ้าบ่าว ต้องโดดเด่นที่สุดในบรรดาชุดสูทของหนุ่มๆ ที่มาร่วมงานทั้งหมด ประโยคด้านบนไม่ใช่ประโยคชวนโอเวอร์แต่อย่างใด เพราะงานแต่งงานทั้งที ทุกคนมักจะให้ความสนใจไปกับการแต่งตัวของเจ้าสาวเป็นพิเศษ แต่ในความจริงแล้ว การแต่งตัวของเจ้าบ่าวก็ไม่ควรละเลยเช่นกัน โดยเฉพาะ สูทเจ้าบ่าว ที่ขอบอกด้วยเสียงหนักแน่นเลยว่า ต้องโดดเด่นเกินใครในงาน ! สูตรลับที่จะช่วยให้ สูทเจ้าบ่าว ดูดี [...]

10
Oct

ตัดสูทเจ้าบ่าว ทั้งทีขอดูดี ใส่แล้วหล่อที่สุดในงาน

ตัดสูทเจ้าบ่าว คือวาระสำคัญระดับชาติสำหรับเจ้าบ่าว เพราะคนที่เป็นเจ้าบ่าว ไม่ได้เป็นเพียงแขกรับเชิญไปร่วมงานแต่งที่จะใส่อะไรก็ได้เท่านั้น แต่เราคือ สุดหล่อนัมเบอร์วันของงาน เพราะฉะนั้นจะแต่งงานทั้งที เลยต้องตัดสูทเจ้าบ่าวให้ดูดีที่สุดไว้ก่อน เลือกตัดสูทเจ้าบ่าวแบบไหน ให้ปัง เจ้าบ่าวหลายคนอาจคิดว่า ชุดเราไม่ได้มีดีเทลจุกจิก และต้องเลือกเยอะเหมือนชุดเจ้าสาว แต่งานแต่งงานที่มีครั้งเดียวในชีวิต คงต้องใส่ใจรายละเอียดกันเสียหน่อย [...]

17
May

Lapel Roll ว่ากันว่าปกสูทที่ดีจะช่วยเสริมให้สูทตัวนั้นมีความโดดเด่น ทั้งยังช่วยให้ผู้ที่ได้สวมใส่ดูสมาร์ทมีระดับมากขึ้น เราจึงชวนทุกคนมาทำความรู้จักพร้อมทำความเข้าใจว่าทำไม Lapel Roll จึงเป็นอีกหนี่งดีเทลที่สาวกสูทสั่งตัดไม่ควรพลาด

Lapel Roll ปกเสื้อสูทแบบโค้งคืออะไร?

Lapel Roll คือการม้วนโค้งลงของปกเสื้อสูท ตั้งแต่ช่วงกลางปกเสื้อจนถึงกระดุมเสื้อเม็ดแรก ที่สร้างให้ชุดสูทของคุณมีมิติ ดูดีมีระดับ เพราะดีเทลระดับนี้มีแค่ในสูทสั่งตัดคุณภาพเยี่ยมเท่านั้น การที่ปกเสื้อสูทจะสามารถม้วนลงให้มีองศาที่สวยงามได้ เสื้อสูทตัวนั้นจำเป็นต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญอย่าง “แคนวาส” อยู่ด้วย ซึ่งแคนวาสนี้เป็นอะไหล่ชิ้นสำคัญของสูทสั่งตัด ผลิตจากหางของม้ามีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องความทนทาน และความหยืดหยุน ที่สำคัญมีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งดีเทลระดับนี้สามรถสัมผัสได้ในสูทสั่งตัดชั้นดีเท่านั้น

ถ้าสังเกตระหว่างปกสูทสำเร็จรูปธรรมดา กับปกสูทสั่งตัดแบบ Lapel Roll จะเห็นชัดๆ เลยถึงความแตกต่าง ปกเสื้อสูทสำเร็จรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ตัวปกเสื้อนั้นจะเรียบแบนแนบติดกับตัวเสื้อไปเลย ซึ่งในแง่มุมของความสวยงามก็จะยังขาดความเป็นมิติอยู่ แต่โดยรวมแล้วสูทสำเร็จรูปก็ยังคงมาตรฐานของสูทที่ดีไว้ได้ แต่ถ้าคุณต้องการสัมผัสความพรีเมี่ยมที่แตกต่าง การเลือกสั่งตัดสูทพร้อมดีเทลปกสูทแบบ Lapel Roll ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจเลยทีเดียว

Lapel Roll มีรายละเอียดอยู่ 2 อย่างที่สำคัญ

ส่วน Lapel Belly
คือบริเวณปกเสื้อสูท ที่โค้งทิ้งตัวทอดไปยังเม็ดกระดุม ถ้าสังเกตในยุค 30s ผู้ชายส่วนใหญ่เขาจะฮิตใส่เสื้อสูทที่มีปกใหญ่และมี Lapel Belly ที่โค้งมากๆ ซึ่งในสมัยนี้อาจจะไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก แต่ก็ถือเป็นดีเทลที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากลองเปลี่ยนแนวมาใส่สูทสไตล์วินเทจก็สามารถเพิ่มเสน่ห์ตรงจุดนี้เข้าไปรับรองว่าดูดีไม่แพ้ใครแน่นอน

ส่วน Roll Line
คือส่วนที่ม้วนเข้าบริเวณปกเสื้อสูทเหนือกระดุมเม็ดแรก นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่บริเวณใต้ปกสูทที่เรียกว่า (Hollow) ส่วนนี้แหละที่เป็นจุดสำคัญตัวบ่งบอกความเป็น Lapel Roll ที่แท้จริง ถึงแม้จะเป็นส่วนที่ดูเล็กน้อย แต่ก็เป็นรายละเอียดชิ้นสำคัญของปกเสื้อสูทกันเลยทีเดียว

ทำความรู้จัก Lapel Roll กันมาพอประมาณแล้ว ก่อนไปสั่งตัดสูทคุณภาพพรีเมียมสักชุดก็ควรคำนึงถึงปกสูทให้ดีเสียก่อน และแน่นอนว่า SUITCUBE เพื่อนรู้ใจคุณผู้ชายก็มีบริการตัดสูทด้วยช่างมากฝีมือ พร้อมดีเทล Lapel Roll เพิ่มสเน่ห์ให้สูทสั่งตัดตัวเก่งของคุณ  ครบ จบ ทุกความต้องการขนาดนี้ ไม่ควรพลาดมาตัดชุดสูทคุณภาพดีที่ SUITCUBE ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

สูทพาสเทล พอได้ยินชื่อนี้แล้วผู้ชายหลายคนก็คงส่ายหน้าขอ Say No ไว้ก่อน เพราะด้วยสีที่ออกโทนหวานๆ เลยทำให้หนุ่มบางคนไม่ค่อยมั่นใจจะใส่เท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าต้องมีบ้างบางโอกาสที่หนุ่มๆ อาจจะต้องแต่งตัวตามธีมงานที่ได้จัดไว้ อย่างธีมงานแต่งโทนสีพาสเทลอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดว่าจำเป็นต้องใส่สูทพาสเทลจริงๆ จะมีวิธีเลือกใส่อย่างไรให้ดูดี วันนี้ SUITCUBE มีคำตอบมาฝากกันค่ะ

อันดับแรกเรามาทำความรู้จักกับ “เจ้าสีพาสเทล” กันก่อนดีกว่า สีพาสเทลพูดง่ายๆ ก็คือการอ่อนตัวลงของสีหลักโดนมีการใช้สีขาวผสมลงไป ดังนั้นสีที่ได้จะมีความละมุน ดูนวลสบายตา พร้อมทั้งให้ความรู้สึกหวานๆ อีกด้วย

ใส่สูทพาสเทลครั้งแรก ใส่อย่างไรให้ดูดี

เลือกโทนสีให้เหมาะกับสีผิว
เพราะสีพาสเทลนั้นมีความอ่อนนุ่มในตัวอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าหากคุณมีผิวขาวซีดควรเลือกโทนสีพาสเทลที่มีความเข้มขึ้นมาสักหน่อยให้เห็นสีหลักได้ชัดขึ้น เพื่อไม่ให้สีชุดสูทพาสเทลกลืนไปกับสีผิวของคุณ ซึ่งจะยิ่งทำให้คุณดูสว่างสไสวเกิดไปสักหน่อย ส่วนหนุ่มๆ ที่มีผิวเข้มอันที่จริงแล้วเหมาะมากที่จะใส่สูทพาสเทลหรือสูทโทนสีอ่อน เพราะนอกจากจะช่วยขับผิวให้สว่าง ยังทำให้เสื้อผ้าโดดเด่นออกมามากขึ้นอีกด้วย

อัพลุคให้ดูภูมิฐานกับสูท 6 กระดุม
ด้วยโทนสีพาสเทลที่ดูอ่อนโยน อาจทำให้บางคนเกิดเป็นกังวลว่าใส่ออกมาแล้วจะยิ่งดูอ่อนวัยเกินไปหรือเปล่า ดังนั้นการเลือกใส่สูทแบบ 6 กระดุมน่าจะเป็นตัวช่วยในการปรับลุคให้คุณดูภูมิฐานสมวัยขึ้นมาได้ ด้วยทรงของสูท 6 กระดุมที่กระชับช่วงลำตัวของผู้ใส่ จับคู่กับปกสูทแบบแหลมจะยิ่งเพิ่มความสมาร์ท ให้ลุคที่ดูจริงจังมากยิ่งขึ้น คราวนี้ไม่ว่าจะใส่สูทพาสเทลสีไหนก็หมดกังวลไปได้เลย

3 Pieces Suit จัดเต็มความพาสเทล
พาสเทลแค่เสื้อกับกางเกงอาจยังไม่สะใจ จะใส่ทั้งทีต้องขอจัดเต็มกันหน่อย ทั้งเสื้อ กางเกง และเสื้อกั๊ก!! ถ้ามองภาพไม่ออกลองนึกถึงสูทวิทเทจในสมัยก่อน ที่ส่วนใหญ่ผู้ชายจะนิยมใส่สูทแบบ 3 ชิ้นครบชุด แมตช์เข้ากับเชิ้ตสีขาวสักตัวให้สีกลืนไปด้วยกันไม่แย่งซีนสูทพาสเทลตัวเก่ง ก็ได้ลุคหวานๆ ที่คุมโทนทั้งตัว ดูดีแล้วก็สบายตาไปพร้อมๆ กัน ขอแนะนำไอเดียสำหรับในงานแต่งงานถ้าเจ้าบ่าวจัดเต็มกับสูทพาสเทล 3 ชิ้นแล้ว แก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวเลือกใส่เป็นแค่เสื้อกั๊กสีตามธีมก็ดูเก๋ไปอีกแบบ เวลาถ่ายรูปรวมออกมาแล้วรับรองว่าดูดีไม่แย่งซีนเจ้าบ่าวแน่นอน

เนคไทตัวช่วยเบรคความหวาน
หากความหวานของสูทพาสเทลไม่ใช่สไตล์เลยจริงๆ ให้เนคไทเป็นอีกตัวช่วยในการลดความหวานลงได้ โดยการเลือกเนคไทโทนสีเข้มตัดหวานไปเลย อย่างเนคไทสีกรมที่สามารถเข้าได้กับทุกสีพาสเทล จะมีลวดลายที่ตัวเนคไทเพิ่มความโดดเด่นก็ได้เช่นกัน หรือเทคนิคง่ายๆ เลือกสีเนคไทที่สีเดียวกับสูทพาสเทลแต่เป็นโทนที่เข้มขึ้นก็จะได้ลุคคุมโทนดูกลมกล่อมมากขึ้น

สุดท้ายการเลือกแมตช์สูทพาสเทลเข้ากับเครื่องหนังไม่ว่าจะเป็นรองเท้าหรือเข็มขัด จะช่วยคอมพลีทการแต่งตัวด้วยชุดสูทของคุณให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งถ้ามีโอกาสใส่สูททั้งที ใครๆ ก็อยากแต่งให้หล่อเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้ากันใช่ไหมคะ? เพราะฉะนั้นก็จัดเต็มไปเลยน่าจะดีกว่า  แต่สำหรับสายชิวการเลือกแมตช์สูทพาสเทลเข้ากับรองเท้าผ้าใบหรือเสื้อยืดก็ไม่ผิด กลับเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่กำลังฮิตในปัจจุบันเสียด้วยซ้ำ ด้วยความลำลองทำให้ดูเข้าถึงง่ายถึงแม้จะอยู่ในชุดสูทก็ตาม

สำหรับหนุ่มๆ คนไหนกำลังมองหาสูทพาสเทลคุณภาพดีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ แวะมาหาเราไดที่ SUITCUBE ทุกสาขา เรามีผ้าสีพาสเทลโดนๆ ให้คุณเลือกอย่างจุใจ พร้อมบริการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อมอบประสบการณ์การใส่สูทพาสเทลครั้งแรกให้กับคุณผู้ชาย และส่งต่อชุดสูทเนื้อดี มีคุณภาพให้สุภาพบุรุษทุกคนได้มีไว้ครอบครอง

Collar Roll คือดีเทลที่ปกเสื้อเชิ้ต จุดเล็กๆ ซึ่งบ่งบอกถึงความใส่ใจในการแต่งตัวของเหล่าผู้ชายที่กลายเป็นเสน่ห์โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเพื่อความเท่ที่เพิ่มขึ้น SUITCUBE ชวนมาทำความเข้าใจ เจาะลึกถึงรายละเอียดของ Collar Roll หรือปกเสื้อเชิ้ตอย่างละเอียดยิบ!

Collar Roll คือตรงไหน

หากนึกสงสัยว่าส่วนไหนของเสื้อเชิ้ตคือ Collar Roll เราแนะนำให้สังเกตไปยังบริเวณปลายปกเสื้อเชิ้ตก่อน ปกเสื้อเชิ้ตที่มีดีเทลกระดุมเม็ดเล็กๆ เย็บติดอยู่ ซึ่งเราเรียกว่าปกเสื้อเชิ้ตแบบนี้ว่า Button Down เมื่อติดแล้วจะทำให้เกิดเส้นโค้งเป็นรูปตัว S จากด้านบนปกลงมายังบริเวณปลาย ส่วนโค้งที่เกิดจากการติดกระดุมนี้แหละที่เรียกว่า Collar Roll

ทำไม Collar Roll ถึงสำคัญ เพราะ Collar Roll ที่ดีและเหมาะสม คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้คุณดูดีได้อยู่เสมอ ทั้งยังเสริมกับการผูกเนคไท การใส่ชุดสูท หรือแม้กระทั่งทำให้คุณดูหล่อขึ้นมาได้เลยล่ะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ปกเสื้อเชิ้ตแบนๆ ที่ไม่มี Collar Roll โค้งสวยๆ ไม่สามารถทำให้ได้นะ !

อะไรคือจุดบ่งบอกความเป็น Collar Roll ที่ดี Collar Roll หรือ ปกเสื้อเชิ้ตที่ดีจะโค้งได้รูปตัว S ที่ทิ้งตัวลงห่างจากคือเสื้อเชิ้ตลงมาอย่างสวยงาม และมีพื้นที่เหลือระหว่างกลาง Collar Roll อย่างพอดี และส่วน Collar Roll ที่ต้องเซย์โนคือ Collar Roll ที่ไม่เหลือพื้นที่ระหว่างปกกับเสื้อเชิ้ตให้เห็นเลยนั่นเอง เพราะจะทำให้ช่วงคอคุณดูอึดอัด

ข้อดีของ Collar Roll จุดเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม ‘ตั้งตรง มีสง่า’ เมื่อติดกระดุมที่ปลายปกเข้ากับรังดุมที่เสื้อแล้ว ความโค้งของ Collar Roll ตั้งแต่ด้านบนจนถึงปลายปก จะทำให้ปกเสื้อเชิ้ตตั้งเป็นตัว S สวยงาม และทำให้การแต่งตัวคุณดูมีมิติมากขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าปกเสื้อเชิ้ตซึ่งคุณสวมใส่อยู่ดูแบน ไม่ตั้งได้รูป ก็จะทำให้การแต่งตัวของคุณดูแบนไปหมด มองมุมไหนก็ไม่มีจุดเด่นน่าดึงดูด

“โค้งเข้ารูปคอ เพิ่มความหล่อให้คุณ“ นี่คือข้อดีข้อถัดมา หรือเรียกได้ว่าเป็นข้อดีข้อใหญ่ของ Collar Roll เลยทีเดียว เพราะเมื่อปกเสื้อเชิ้ตตั้ง ก็จะรับเข้ากับรูปคอของหนุ่มๆ อย่างพอดิบพอดี ใครมองมาทีก็รู้ว่าคุณเป็นคนเอาใจใส่ แถมยังเพิ่มความหล่อให้อีกเท่าตัว ข้อนี้สำคัญมากนะว่าไหม ?

“เพิ่มราคาให้เนคไทเส้นสวย” แน่นอนว่าเสื้อเชิ้ต มักมาคู่กับการผูกเนคไท ซึ่งเมื่อ Collar Roll ตั้งสวย โค้งได้รูป ก็จะมีพื้นที่เหลือให้เนคไทได้โชว์หล่อ อวดเนื้อผ้า ลวดลายกันอย่างเต็มที่ รวมถึงถ้าเสริมด้วยสูทคัตติ้งเนี๊ยบ Collar Roll ที่ดีก็จะขับให้การใส่สูทดูหรูหรา ภูมิฐานมากยิ่งขึ้น ทำความรู้จักกับ Collar Roll หรือปกเสื้อเชิ้ตไปแล้ว ต่อไปนี้หากไปซื้อเสื้อเชิ้ตสักตัว ก็อย่าลืมสังเกตุรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่าง Collar Roll กันด้วย เพราะจุดโค้งเล็กๆ ที่ปกเสื้อนี้ จะทำให้คุณดูดี เป็นหนุ่มเพอร์เฟกต์อย่างไร้ที่ติ เอาล่ะ ถึงเวลาเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเช็กดูสิว่า เสื้อเชิ้ตของคุณมี Collar Roll ที่ดีหรือเปล่า

เสื้อเชิ้ตสีขาว คือหนึ่งในไอเท็มเบสิกที่ผู้ชายต้องมีติดตู้ ด้วยความน้อยแต่มากที่สามารถใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวได้หลายโอกาส ทั้งทำงาน ประชุม แฮงก์เอาท์ ไปจนถึงโอกาสสำคัญ เสื้อเชิ้ตสีขาวก็เป็นพระเอกชิ้นเก่งได้ง่ายๆ แต่ในความง่ายก็ยังแอบยาก เพราะถ้ามิกซ์แอนด์แมชต์เสื้อเชิ้ตสีขาวอย่างไม่เข้าใจ คุณอาจจะหมดมาดและเสียความมั่นใจไปอย่างกู้คืนไม่ได้ SUITCUBE จึงมีเทคนิคเด็ดๆมานำเสนอ

วิธีการใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับเครื่องแต่งกายชิ้นอื่น พร้อมทริคเล็กๆ ที่บางคนอาจยังไม่รู้มาเล่าสู่กันฟัง

เดนิมหนึ่ง เสื้อเชิ้ตสีขาวหนึ่ง ง่ายๆ แต่มีของ
ยังไงก็รอด ! คือประโยคสั้นๆ ที่ใช้กับการจับคู่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับเดนิมได้อย่างดี เพราะสองชิ้นนี้เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่อกันแล้วสุดเท่ ดึงดูดสายตาให้หันมอง แถมยังแต่งได้หลายสไตล์อีกด้วย เริ่มจากทั่วไปอย่างเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีน จะใส่ทับในแล้วพับแขนขึ้นหน่อย ก็ดูเนี้ยบแต่เข้าถึงง่าย อยากเพิ่มความน่าค้นหาก็หยิบแจ็คเก็ตยีนมาสวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาว หรือถ้าใส่แบบปล่อยชายเสื้อก็เปลี่ยนโหมดเป็นหนุ่มเซอร์ หากอยากเซ็กซี่นิดๆ ก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวสองเม็ดบนกันซะหน่อย

เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้น
วันไหนอยากชิลแต่ดูมีอะไร เพียงหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวมาใส่คู่กับกางเกงขาสั้นที่ใส่ง่ายทะมัดทะแมง คล่องตัว และเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา จะเป็นกางเกงเอวสูงหรือเอวกลางไม่ว่ากัน แต่ที่สำคัญคือความยาวของกางเกงขาสั้นนั้นต้องเลือกอย่างพอดี นั่นคือความยาวเหนือเข่าเล็กน้อยไปจนถึงสั้นขึ้นจากหัวเข่าประมาณหนึ่งคืบ ส่วนความยาวต้องห้ามคือคลุมเข่า เพราะจะทำให้ช่วงขาดูสั้นได้นั่นเอง

ลุคหนุ่มเจแปนด้วยลินิน
โอไฮโย ! สไตล์การแต่งตัวยอดฮิตอีกอย่างของหนุ่มๆ คือลุคญี่ปุ่นแบบมินิมอล ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงลินินขายาว ที่ใส่ทับในพร้อมไปทำงานแบบแคชชวล หรือจะหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวทรงโอเวอร์ไซซ์มาใส่ปล่อยๆ กับกางเกงลินินขาสามส่วน พร้อมถุงเท้าสูงและสนีกเกอร์ก็ได้ลุคหนุ่มยุ่นแอบสตรีท

เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นเสื้อคลุม
ปรับการใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแบบเดิมๆ ด้วยการเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสุดชิคแทน แค่ใส่เสื้อยืดกับกางเกงผ้าหรือยีน แล้วคว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวมาคลุมก็ได้อีกลุคใหม่ที่ไม่จำเจแล้ว

สูทเนี้ยบๆ คู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาว
ถ้าเสื้อเชิ้ตสีขาวคือแคนวาสภาพ ศิลปะชิ้นนี้จะสวยสมบูรณ์ได้ด้วยการการหยิบสูทเนื้อดีมาใส่เข้าคู่กัน ซึ่งเมื่อเสื้อเชิ้ตสีขาวจับคู่เข้ากับสูทแล้ว จะทำให้การแต่งตัวของคุณมีรสนิยมขึ้นมาทันตา เพราะเสื้อเชิ้ตสีขาวกับสูทคือเพอร์เฟ็กต์แมชต์ที่อยู่ด้วยกันแล้วไร้ที่ติ โดยเฉพาะเสื้อเชิ้ตสีขาวกับชุดสูทสีกรมหรือสีเทายิ่งช่วยเพิ่มความดูดีอย่างไร้กาลเวลา ยิ่งถ้าเสริมด้วยเนคไท เข็มขัด และรองเท้าหนังทรงดี รับรองเลยว่าลุคนี้เอาอยู่ทุกโอกาส

SUITCUBE ในฐานะเพื่อนรู้ใจสุภาพบุรุษก็ไม่พลาดมีเสื้อเชิ้ตสีขาวผ้าเกรดพรีเมียม เนื้อนุ่ม ใส่สบายให้คุณได้เป็นเจ้าของ ทั้งยังมีคุณสมบัติเด่นเรื่องการระบายอากาศ สามารถสวมใส่ได้ทุกวันและทุกโอกาสตามที่ใจคุณต้องการ

Neapolitan Suit คือรูปแบบสูทที่เทียบได้กับบรรพบุรุษของตระกูลสูท เพราะชุดสูทสไตล์นี้มีอายุหลายร้อยปี ทั้งยังเกิดขึ้นจากฝีมือของช่างตัดเย็บซึ่งอยู่ในสมาคมเสื้อผ้าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอิตาลีอีกด้วย

นั่งไทม์แมชชีนไปยุคบุกเบิก Neapolitan Suit

700 ปีก่อน สมัยคริสตศตวรรษที่ 14 คือเวลาที่ Neapolitan Suit (ที่ช่วงแรกยังไม่มีชื่อเรียก) ถูกตัดเย็บให้เกิดขึ้นผ่านฝีมือของ Confraternita dell’arte dei Giubbonai e Cositori สมาคมตัดเย็บเสื้อผ้าในเมืองเนเปิลส์ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในอิตาลี โดยช่างมากความสามารถในสมาคมคือกลุ่มคนแรกที่สร้างสรรค์เสื้อผ้าพร้อมใส่ (Ready To Wear) สำหรับผู้ชาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือชุดสูท เพื่อส่งไปให้กษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ เหล่าขุนนาง และผู้รากมากดีทั่วทั้งยุโรปตอนใต้ได้สวมใส่

เมื่อไหร่ที่มีการตั้งชื่อว่า Neapolitan Suit
เมื่อเข้าคริสศตวรรษที่ 19 ยุคที่ความรุ่งเรืองในเนเปิลส์ตกต่ำ ความยากจนเยือนเข้ามาหา ทำให้เสื้อผ้าพร้อมใส่สำหรับเหล่าบุรุษได้รับความนิยมน้อยลง แต่ Vincenzo Attolini เด็กฝึกงานจากบริษัท Morziello กลับฉุดวงการสูทให้ขึ้นมารุ่งเรืองอีกครั้ง ผ่านการพัฒนารูปแบบจากสูทสไตล์อังกฤษที่มีฟองน้ำหนาเสริมไหล่ ช่วงอกแคบ พร้อมบุซับในทั้งตัว เปลี่ยนสู่ Neapolitan Suit ที่เบาบางกว่าเดิม

ด้วยการเอาฟองน้ำที่ไหล่ออกแล้วเปลี่ยนเป็นจีบเล็กๆ ที่ต้นแขนแทน ตามด้วยการตัดผ้าซับในส่วนที่คิดว่าไม่จำเป็นทิ้ง เหลือไว้เพียงซับในบริเวณด้านหน้าเท่านั้น และเปลี่ยนมาใช้กระดุมแบบ 3 Roll 2 พร้อมกระเป๋าสูทที่มีความโค้งน่าดึงดูด จนทำให้ Neapolitan Suit มีความเบา และบางกว่า ใส่สบาย ไม่แน่น ทั้งยังดูไม่ทางการเกินไป

ท้ายที่สุดจากชุดสูทพร้อมใส่ของเหล่าบุรุษที่ไร้ชื่อ ก็ถูกพูดถึงว่าเป็นสูทที่ตัดเย็บด้วยจิตวิญญาณของช่างเนเปิลส์อย่างเข้มข้น สูทที่ได้จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างไม่มีใครเหมือน และตอนนั้นเองที่ชื่อ Neapolitan Suit ถือกำเนิดขึ้น เพราะคำว่า Neapolitan หมายถึงชาวเนเปิลส์หรือความข้องเกี่ยวกับเนเปิลส์ เมื่อนำมารวมกับคำว่า Suit ที่หมายถึงชุดสูท Neapolitan Suit จึงมีความหมายว่า ชุดสูทสไตล์ชาวเนเปิลส์แท้ๆ หลังจากนั้น Neapolitan Suit ก็ครองใจหนุ่มรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ทั่วทั้งอิตาลี ก่อนจะกระจายวัฒนธรรม Neapolitan Suit ไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

ทำไม Neapolitan Suit ถึงเป็นต้นแบบสูทที่มีรังดุมแขนเปิดได้
เพราะรังดุมช่วงแขนที่เปิดได้ คือกิมมิกสำคัญของ Neapolitan Suit เนื่องจากในสมัยก่อนการถอดสูทออกในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่ไม่สุภาพเท่าไหร่ ดังนั้น Neapolitan Suit จึงถูกตัดเย็บให้มีกระดุมพร้อมรังดุมสำหรับติดและปลดออกได้เพิ่มที่แขน แถมใส่ดีเทลเป็นกระดุมแบบซ้อนทับกัน (Stacked Buttons) ให้คุณผู้ชายได้ปลดกระดุมแล้วพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อความคล่องตัวตอนทำงานหรือลุยกิจกรรมต่างๆ นั่นเอง และแน่นอนว่าดีเทลกระดุมแขนเสื้อปลดออกได้ของ Neapolitan Suit ก็กลายเป็นต้นแบบของสูทที่ปลายแขนมีรังดุมปลดได้มานับตั้งแต่นั้นมา

SUITCUBE เพื่อนรู้ใจชุดสูทสำหรับสุภาพบุรุษ ก็ไม่พลาดมีบริการตัดเย็บ Neapolitan Suit จากช่างมากฝีมือที่ใส่ใจตั้งแต่การวัดตัว เลือกผ้า การตัด พร้อมการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อให้คุณผู้ชายได้สวมใส่ Neapolitan Suit ที่เหมาะกับคุณเท่านั้น

Credit : Pinterest